กบฏบักกิงแฮม ของ เฮนรี สแตฟฟอร์ด ดยุกที่ 2 แห่งบักกิงแฮม

แผนล้มล้างกษัตริย์

ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ผู้สนับสนุนพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ได้วางแผนก่อกบฏต่อพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 มีการวางแผนที่จะช่วยเหลือเจ้าชายทั้งสองและคืนบัลลังก์ให้แก่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 ซึ่งกษัตริย์โดยชอบธรรมตามกฎหมาย แต่ความพยายามดังกล่าวประสบความล้มเหลว และเจ้าชายทั้งสองได้หายตัวไป


ดยุคแห่งบักกิงแฮมได้เข้าร่วมแผนการร้ายครั้งนี้โดยไม่ทราบเหตุผลในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โดมินิก มันซินี ชาวอิตาลีที่อาศัยอยู่ในลอนดอนในช่วงที่พระเจ้าริชาร์ดขึ้นครองอำนาจอ้างว่าดยุคแห่งบักกิงแฮมหักหลังพระเจ้าริชาร์ดเพราะไม่พอใจที่ถูกบังคับให้สมรสกับแคทเธอรีน[2] หรือไม่อาจเป็นเพราะรู้ว่าพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ได้ฆาตกรรมเจ้าชายในหอคอยทั้งสองซึ่งเป็นพระภาติยะของพระองค์เอง ทว่าตัวดยุคแห่งบักกิงแฮมเองก็มีแรงจูงใจให้สังหารเจ้าชายทั้งสองเช่นกัน คือเพื่อที่ตนจะได้อ้างสิทธิ์ในบัลลังก์ หรือไม่เขาอาจคิดว่ารางวัลที่ได้มายังไม่มากพอสมกับการลงทุนแย่งชิงอำนาจมาให้พระเจ้าริชาร์ด


ก่อนหน้าที่ดยุคแห่งบักกิงแฮมจะเข้าร่วมก่อกบฏ (แม้จะถูกเรียกว่ากบฏบักกิงแฮม แต่ตัวการสำคัญที่ชักใยอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ คือ เอลิซาเบธ วูดวิลล์, มาร์กาเร็ต โบฟอร์ท, บิชอปมอร์ตัน และเรจินัลด์ เบรย์) จุดมุ่งหมายของการก่อกบฏ คือ เพื่อกอบกู้บัลลังก์กลับคืนมาให้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 โดยมาร์กาเร็ต โบฟอร์ทต้องการเพียงรักษาสิทธิ์ในการสืบทอดตำแหน่งเอิร์ลแห่งริชมอนด์ให้เฮนรี ทิวดอร์ผู้เป็นบุตรชายซึ่งอยู่ระหว่างถูกเนรเทศ แต่เมื่อดยุคแห่งบักกิงแฮมตัดสินใจเข้าร่วมและมีข่าวลือว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 กับพระอนุชาสิ้นพระชนม์แล้ว เป้าหมายได้เปลี่ยนไปเป็นการทำให้เฮนรี ทิวดอร์ได้ขึ้นครองบัลลังก์และสมรสกับเอลิซาเบธแห่งยอร์ก พระเชษฐภคินีของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5

จุดจบ

ในช่วงเดือนตุลาคม ค.ศ. 1483 การก่อกบฏของดยุคแห่งบักกิงแฮมความแตก ดยุคแห่งบักกิงแฮมได้ระดมกำลังพลจากทรัพย์สินที่ดินในเวลส์และรัฐชายแดนเวลส์ของตนและนำทัพเดินทางเข้าสู่เฮริฟอร์ดเชอร์เพื่อก่อกบฏ ทว่าเรือของเฮนรี ทิวดอร์เจอกับพายุจนต้องถอยกลับไปเบรอตาญ การเดินหน้าของดยุคแห่งบักกิงแฮมชะงักไปเนื่องจากแม่น้ำเซเวิร์นไหลบ่าเข้าท่วมเส้นทางสู่ลอนดอน คนในกองทัพหนีหายไปเป็นจำนวนมากในตอนที่กองทัพของพระเจ้าริชาร์ดมาถึง


ดยุคแห่งบักกิงแฮมพยายามหนีด้วยการปลอมตัวไปขอรับการคุ้มภัยที่วิหารบิวลีในนิวฟอเรสต์ แต่เมื่อพระเจ้าริชาร์ดตั้งค่าหัวเขาเป็นเงินก้อนโต ราล์ฟ แบนนิสเตอร์ ลูกน้องของเขาได้หักหลังเขาและนำตัวเขาไปให้พระเจ้าริชาร์ดที่ซอลส์บรี แม้จะร้องขอความเมตตาแต่กษัตริย์ปฏิเสธที่จะให้เขาเข้าเฝ้า เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานกบฏและถูกตัดหัวในซอลส์บรีในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1483


หลังดยุคแห่งบักกิงแฮมเสียชีวิต บัลลังก์ของพระเจ้าริชาร์ดก็ไม่มั่นคงอีกต่อไป พระองค์ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สังหารเจ้าชายในหอคอยทั้งสอง ทำให้เฮนรี ทิวดอร์ได้รับการต้อนรับจากขุนนางกบฏที่พากันให้การสนับสนุนเมื่อเขารุกรานอังกฤษในปี ค.ศ. 1485


หลังความปราชัยของพระเจ้าริชาร์ดในยุทธการที่บอสเวิร์ธฟิลด์ในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1485 เฮนรี ทิวดอร์ได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 7 กษัตริย์คนใหม่ได้ตั้งเอ็ดเวิร์ด บุตรชายวัย 7 ปีของบักกิงแฮมเป็นดยุคที่ 3 แห่งบักกิงแฮมและอัศวินแห่งบาธ และให้เข้าร่วมพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าเฮนรี แคทเธอรีน วูดวิลล์ ภรรยาม่ายของเฮนรีสมรสกับแจสเปอร์ ทิวดอร์ซึ่งเป็นพระปิตุลาของกษัตริย์ ทว่าในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 เอ็ดเวิร์ด สตาฟฟอร์ด ดยุคที่ 3 แห่งบักกิงแฮมถูกตัดสินประหารชีวิตในปี ค.ศ. 1521 ด้วยโทษฐานเป็นกบฏ

ใกล้เคียง

เฮนรี กุสตาฟ โมไลสัน เฮนรี อานิเยร์ เฮนรี แควิลล์ เฮนรี อาลาบาศเตอร์ เฮนรี จอร์จ เฮนรี สแตฟฟอร์ด ดยุกที่ 2 แห่งบักกิงแฮม เฮนรี คิสซินเจอร์ เฮนรี หลิว เฮนรี เดวิด ทอโร เฮนรียุวกษัตริย์